สัญญาต้องเป็นสัญญา
📍เครดิต ใช้เวลาสร้าง แรมปี
ใช้เวลาทำลาย ชั่วพริบตา
ใช้เวลาซ่อมแซม ชั่วชีวิต 📍
😇 ข้อความข้างบนไม่เกินเลยไปจากความเป็นจริงครับ
ที่น่าสนใจคือ ‘อะไรคือสิ่งที่คนเราทำลายเครดิตตัวเองมากที่สุด❓
’ สิ่งนั้นคือ “สัญญา” ครับ หรือจะใช้คำพูดให้ชัดไปเลยคือ
“คำมั่นสัญญา” ครับ
แน่นอนที่สุดครับว่า ผู้นำจะต้องมี เครดิต ผู้นำจะต้องเป็นผู้ที่ “ผู้ตาม” เชื่อถือ ไว้เนื้อเชื่อใจ มันจะเกิดอะไรขึ้นกับทีมครับ ถ้าผู้ตามขาดความไว้วางใจผู้นำของเขา ไม่ว่าผู้นำจะพูดอะไร สัญญาอะไร แต่ผู้ตามไม่เชื่อ คำตอบคือ ผู้ตามหรือลูกน้องในทีมจะเกิดความลังเลว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาทำตามที่ผู้นำสั่งและสัญญาว่าเมื่อทำได้สำเร็จแล้ว ผู้นำจะทำอะไรให้ เมื่อลูกน้องลังเล ลูกน้องก็ยากที่จะทุ่มเทการทำงานที่ได้รับมอบหมาย แล้วภารกิจจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร❓
📣 ผมเป็นคนนึงที่เคยทำผิดพลาดในเรื่องนี้ครับ เมื่อตอนผมเป็นผู้บริหารระดับต้นที่ยังไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ 100% แต่เมื่อครั้งลูกน้องในทีมมาเล่าถึงความเดือดร้อนของเขา ขอให้ผมช่วยเรื่องการปรับเงินเดือนในปีถัดไปให้มากหน่อย ด้วยความที่ผมเป็นผู้บริหารป้ายแดงกำลังร้อนวิชา และรู้ว่าผลงานของทีมจะดีเกิดจากความทุ่มเทการทำงาน ความสามัคคีของคนในทีม ผมจึงได้รับปากไปอย่างรวดเร็วและขาดการไตร่ตรองหรือสอบถามหัวหน้าของผมในเรื่องนี้ ผมได้รับปากลูกน้องไปว่า ในปีหน้าเงินเดือนของคุณจะได้เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ หลังจากนั้นผมก็ได้พยายามผลักดันอย่างเต็มที่ แต่หัวหน้าของผมในขณะนั้นก็มีเหตุผลระดับนโยบายของบริษัทปฏิเสธสิ่งที่ผมขอไป ทำให้งานนั้น ผมเสียสัจจะ ไม่สามารถทำตามที่ผมรับปากกับลูกน้องได้ ผมเสียเครดิตครับ
🎯 ถ้าเป็นตอนนี้มีเหตุการณ์แบบนั้นผมจะใช้คำพูดว่า ‘ผมจะเอาเรื่องนี้ปรึกษากับทางผู้บริหารระดับสูงก่อนนะครับ ผมจะผลักดันเต็มที่เท่าที่ผมจะทำได้ แต่ขอให้คุณทำผลงานให้ดีด้วย’ ความหมายคือ ถ้าเราไม่แน่ใจอะไร อย่าไปรับปากหรือให้คำมั่นสัญญากับลูกน้อง เพราะถ้าเราทำไม่ได้อย่างที่เราสัญญา แปลว่า ‼️เราเสียเครดิต‼️ ครับพี่น้อง 😅😅😅
Coach โอ๋ : ปิติพงษ์ ชีรานนท์
#PeakSkill
#networkcoach
#ExecutiveCoach